วันเสาร์ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

EVEREST Ultimate Edition 5.00

EVEREST Ultimate Edition 5.00 โปรแกรม BenchMark ที่ได้รับความนิยมในหมู่นักเลงคอมพิวเตอร์เมืองไทย ด้วยฟีเจอร์การทดสอบที่ง่ายๆ พร้อมระบบการตรวจสอบข้อมูลภายในตัวคอมพิวเตอร์ที่ละเอียด จึงทำให้เป็นโปรแกรมวัดประสิทธิภาพคอมพ์และเอาไว้ตรวจความถูกต้องของ Hardware ที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ครับ ถ้าหากเพื่อนๆ อยากรู้ว่าคอมพ์หรือ NoteBook ที่ซื้อมาสเปคมามันถูกต้องตามที่ร้านประกาศไว้หรือไม่ก็ลองเอาไปตรวจสอบดูได้คะ สนในดาวน์โหลดได้ที่
EVEREST Ultimate Edition 5.00 ที่ http://www.lavalys.com/

CPU-Z

CPU-Z (โปรแกรม ดูค่าต่างๆ ของเครื่องคุณ)
อีกหนึ่งโปรแกรมสามัญประจำเครื่องที่ทุกคนน่าจะมีติดไว้นะครับ เพราะเจ้าโปรแกรมนี้มีคุณสมบัติ รวมถึงค่าต่างๆทั้งฮารด์แวร์ โดยเฉพาะเจ้าหน่วยประมวลผลหรือ CPU เพื่อที่เราจะได้เลือกโปรแกรมต่างๆมาใช้ หรือจะใช้ในการตัดสินใจเพิ่มอุปกรณ์ให้เข้าและทำงานรวมกับอุปกรณ์ต่างๆที่เรามีอยู่อีกด้วย

สำหรับท่านใดที่ต้องการตรวจดู Spec เครื่องว่าใช้ CPU อะไร ความเร็วแค่ไหน แรมมีขนาดเท่าได หรือเมนบอร์ดใช้ Chipset อะไร ฯลฯ วันนี้มีโปรแกรม CPU-Z 1.20 มาแนะนำครับซึ่งคุณสามารถเช็ค Spec เครื่องของคุณได้อย่างง่าย ๆ โดยไม่ต้องแกะเครื่องเลย สนใจดาวน์โหลดที่ http://www.bcoms.net/software/cpuz.asp
เมื่อดาวน์โหลดมาแล้วให้คุณคลาย Zip ออกจากนั้นให้คุณดับเบิ้ลคลิกที่ CPU-Z 1.20

แล้วคลิกที่ Unzip

คลิกที่ OK

ปิดหน้าต่างนี้โดยคลิกที่ Close


การเรียกใช้โปแกรมให้คุณเข้าไปที่ C:\Program Files\CPU-Z 1.20 แล้วดับเบิ้ลคลิกที่ cpuz



เพียงเท่านี้โปรแกรมก็จะบอกรายละเอียดต่างเกี่ยวกับเครื่องของคุณทั้งหมด คุณสามารถเลือกดูรายละเอียดต่างๆ ได้ โดยคลิกที่แท็บต่าง ๆ เช่น CPU , Cache , Mainboard , Memory

ในกรณีที่คุณต้องการจะให้แสดงผลออกมา HTML ก็สามารถทำได้โดยคลิกที่แท็บ About จากนั้นก็คลิกที่ HTML Summary



จากนั้นให้เลือกว่าจะเก็บ ไว้ที่ใด แล้วคลิกที่ Save

เพียงเท่านี้โปรแกรมก็จะบอกรายละเอียดต่างเกี่ยวกับเครื่องของคุณทั้งหมดออกมาในรูปของ HTML แล้ว

การตรวจสอบสเปคเครื่อง (dxdiag)

การตรวจสอบสเปคเครื่องของท่านสามารถทำได้โดยใช้วิธีการดังต่อไปนี้
1. ไปที่ Start
2. ไปที่โปรแกรม Run
3. พิมพ์ dxdiag แล้ว enter
ท่านก็จะได้สเปคเครื่องของท่านโชว์ขึ้นมาตามรูปภาพด้านล่างนี้คะ


วันอังคารที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2552

แนวข้อสอบบทที่ 2

1.โปรเซสที่สมบูรณ์จะต้องประกอบด้วยสิ่งต่าง ๆ คือ
ก. Process ID
ข. Program code
ค. Data
ง. ถูกทุกข้อ
เฉลย ง. ถูกทุกข้อ (หน้า 47)
โปรเซสที่สมบูรณ์จะต้องประกอบด้วยสิ่งต่าง ๆ คือ
1. Process ID หมายเลขโปรเซส
2. Program code โค้ดโปรแกรม
3. Data ข้อมูล
4. Process Control Block บล็อกควบคุมโปรเซส


2.ข้อใดคือคุณสมบัติของโปรเซส
ก. ลำดับความสำคัญของโปรเซส
ข. เป็นตัวควบคุมลำดับการเอ็กซิคิวต์คำสั่งของโปรเซส
ค. อำนาจหน้าที่ของโปรเซส
ง. ข้อ ก และ ค ถูก
เฉลย ง. ข้อ ก และ ค ถูก (หน้า 49)
คุณสมบัติของโปรเซส ซึ่งประกอบด้วย
1. ลำดับความสำคัญของโปรเซส ( Priority)
2. อำนาจหน้าที่ของโปรเซส ( Authority)
3. คุณสมบัติอื่นๆ ที่ระบบปฏิบัติการกำหนดให้มี

3.ข้อใดคือรูปแบบของเมลล์บ็อกซ์
ก. เมลล์บ็อกซ์แบบดิว
ข. เมลล์บ็อกซ์แบบไฟล์
ค. เมลล์บ็อกซ์แบบไปป์
ง. เมลล์บ็อกซ์แบบสติ๊ก
เฉลย ค. เมลล์บ็อกซ์แบบไปป์ (หน้า 60)
รูปแบบของเมลล์บ็อกซ์ มี 3 แบบคือ
1. เมลล์บ็อกซ์แบบคิว (Queue Mailbox)
2. เมลล์บ็อกซ์แบบไปป์ (PipeMailbox )
3. เมลล์บ็อกซ์แบบสแต็ก (Stack Mailbox)

4.ในการสร้างลิงค์ นอกจากจะเป็นการกำหนดเส้นทางข้อมูลแล้ว ลิงค์ยังมีความจุที่เป็นตัวเลขแสดง
จำนวนแมสเสจ โดยพื้นฐานแล้วจะมีความจุกี่ลักษณะ
ก. 3 ลักษณะ
ข. 4 ลักษณะ
ค. 5 ลักษณะ
ง. 6 ลักษณะ
เฉลย ก. 3 ลักษณะ (หน้า 62 )
โดยพื้นฐานแล้วจะมีความจุ 3 ลักษณะ คือ
1. ความจุศูนย์ (Zero capacity)
2. ความจุแบบมีขอบเขต (Bounded capacity)
3. ความจุไม่มีขอบเขต (Unbounded capacity)

4.การซินโครไนซ์โปรเซสหมายถึง
ก. การทำงานของโปรเซส 3 โปรเซสที่ต้องมีความเกี่ยวข้องงกัน อาจจะเป็นเพราะใช้รีเซสร่วมกัน
ข. การทำงานของโปรเซส 2 โปรเซสที่ต้องมีความเกี่ยวข้องงกัน อาจจะเป็นเพราะใช้รีซอร์ร่วมกัน
หรืออาจจะเป็นการเอ็กซิคิวต์โปรเซสหลังจาที่โปรเซสอื่นเอ็กซิคิวต์ไปแล้ว
ค. การทำงานของโปรเซส 2 โปรเซสที่ต้องมีความเกี่ยวข้องงกัน อาจจะเป็นเพราะใช้รีซอร์ร่วมกัน
หรืออาจจะเป็นการเอ็กซิคิวต์โปรเซสก่อนจาที่โปรเซสอื่นเอ็กซิคิวต์ไปแล้ว
ง. การทำงานของโปรเซส 3 โปรเซสที่ต้องมีความเกี่ยวข้องงกัน อาจจะเป็นเพราะใช้รีซอร์ร่วมกัน
เฉลย ข.
การทำงานของโปรเซส 2 โปรเซสที่ต้องมีความเกี่ยวข้องงกัน อาจจะเป็นเพราะใช้รีซอร์ร่วมกัน
หรืออาจจะเป็นการเอ็กซิคิวต์โปรเซสหลังจาที่โปรเซสอื่นเอ็กซิคิวต์ไปแล้ว (หน้า 64 )
การซินโครไนซ์โปรเซสหมายถึง การทำงานของโปรเซส 2 โปรเซสที่ต้องมีความเกี่ยวข้องงกัน

อาจจะเป็นเพราะใช้รีซอร์ร่วมกันหรืออาจจะเป็นการเอ็กซิคิวต์โปรเซสหลังจาที่โปรเซสอื่นเอ็กซิคิวต์ไปแล้ว

5.วิธีการป้องกันไม่ให้โปรเซสอื่นเข่าใช้รีซอร์สในขณะที่โปรเซสใดๆ ครอบครองอยู่นั้นเรียกว่า ....
ก. Race Condition
ข. Critical Region
ค. Mutual Exclusion
ง. Critical Exclusion
เฉลย ค. Mutual Exclusion (หน้า 67)
วิธีการป้องกันไม่ให้โปรเซสอื่นเข่าใช้รีซอร์สในขณะที่โปรเซสใดๆ ครอบครองอยู่นั้นเรียกว่า Mutual Exclusion หรืออาจจะเรียกว่า “การกีดกัน”

6. ........วิธีการยกเลิกอินเทอร์รัพต์ ทำให้ซีพียูทำงานได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่สนใจอินเทอร์รัพต์ใดๆ เลย ทำให้โปรเซสที่อยู่ใน Critical Region ได้เอ็กซิคิวต์จนเสร็จเรียบร้อย
ก. Disable Interrupt
ข. Able Interrupt
ค. I/O Interrupt
ง. ไม่มีข้อถูก
เฉลย ก. Disable Interrupt (หน้า 69)
Disable Interrupt วิธีการยกเลิกอินเทอร์รัพต์ ทำให้ซีพียูทำงานได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่สนใจอินเทอร์รัพต์ใดๆ เลย ทำให้โปรเซสที่อยู่ใน Critical Region ได้เอ็กซิคิวต์จนเสร็จเรียบร้อย

7.บุคคลแรกที่คิดค้นวิธีแก้ปัญหา Mutual Exsolusion คือ
ก. เด็กเกอร์ (Dekker)
ข. ปีเตอร์สัน (Petreson)
ค. ไดจก์สตรา (Dijkstra)
ง. โมเดล (Model)
เฉลย ก.เด็กเกอร์ (Dekker) (หน้า 71)
บุคคลแรกที่คิดค้นวิธีแก้ปัญหา Mutual Exsolusion คือ เด็กเกอร์ (Dekker)
8.ปัญหาการทำงานของโปรเซส ไดจก์สตรา ได้เสนอโดยการสมมุติเกี่ยวกับ.....
ก. ไดจก์สตรา ได้เสนอโดยการสมมุติเกี่ยวกับดอกไม้ 5 ดอกในแจกัน
ข. ไดจก์สตรา ได้เสนอโดยการสมมุติว่ามีนักเรียนนั่งรวมกัน 5 คน
ค. ไดจก์สตรา ได้เสนอโดยการสมมุติว่ามีนักปราชญ์ 5ท่านนั่งรอบโต๊ะ
ง. ไดจก์สตรา ได้เสนอโดยการสมมุติว่ามีนักมายากล 5 ท่านนั่งรอบโต๊ะ
เฉลย ค.ไดจก์สตรา ได้เสนอโดยการสมมุติว่ามีนักปราชญ์ 5ท่านนั่งรอบโต๊ะ (หน้า 80)
ไดจก์สตรา ได้เสนอโดยการสมมุติว่ามีนักปราชญ์ 5ท่านนั่งรอบโต๊ะกลมเพื่อทานอาหรตรงหน้า แต่ละท่านต้องใช้ตะเกียบทั้ง 2 ข้างที่วางอยู่ซ้ายมือและขวามือ

9.การยกเลิก thread มีกี่รูปแบบที่ต่างกัน
ก. 1
ข. 2
ค. 3
ง. 4
เฉลย ข. 2 (หน้า 92)
การยกเลิกอาจมี 2 รูปแบบที่ต่างกัน ดังนี้
1.การยกเลิกแบบ Asynchronous
2.การยกเลิกแบบ Deferred

10.โมเดลใดที่นำมาใช้ในระบบ Windows NT, Windows 2000, Window XP , OS/2
ก. โมเดล Many-to-One
ข. โมเดล One-to-One
ค. โมเดล Many-to-Many
ง. โมเดล One-to-Many
เฉลย ข. โมเดล One-to-One (หน้า 90)
โมเดลใดที่นำมาใช้ในระบบ Windows NT, Windows 2000, Window XP , OS/2
คือ โมเดล One-to-One

แนวข้อสอบบทที่ 1

1.ข้อใดไม่จัดอยู่ในประเภทของคอมพิวเตอร์
ก. Super Computer
ข. PC
ค. Net


ง. PAD
เฉลย ง. PAD (หน้า 18 )
เพราะที่ถูกต้อง คือ PDA (Personal Digital Assistant) เป็นคอมพิวเตอร์ที่สามารถพกพาได้เหมือนโน๊ตบุ๊ค แต่มีขนาดเล็กกว่า หรือเรียกอีกอย่างว่า คอมพิวเตอร์ปากกา



2. ข้อใดไม่ใช่องค์ประกอบของคอมพิวเตอร์
ก. Procedure
ข. Pepleware
ค. Hardware
ง. User Interface
เฉลย ง. User Interface (หน้า 19)
องค์ประกอบของคอมพิเตอร์ประกอบด้วยองค์ประกอบ 5 ด้าน คือ
1. Hardware (ฮาร์ดแวร์)
2. Software (ซอร์ฟแวร์)
3. Pepleware (บุคลากร)
4. Data (ข้อมูล)
5. Procedure (กระบวนการทำงาน)


จงใช่ข้อมูลต่อไปนี้ตอบคำถามข้อ 3 – 4
1. ดิสก์แม่แม่เหล็ก
2. เทปออพติคอล
3. แคช
4. หน่วยความหลัก
5. รีจิสเตอร์
6. เทปแม่เหล็ก
7. ดิสก์อิเล็กทรอนิกส์


3. ข้อใดเรียงลำดับความเร็วของหน่วยเก็บข้อมูลจากต่ำไปสูงได้ถูกต้อง
ก. 2, 4, 6, 1, 3, 5, 7
ข. 2, 3, 5, 1, 4, 6, 7
ค. 6, 2, 1, 7, 4, 3, 5
ง. 6, 5, 7, 1, 4, 3, 2
เฉลย ค. 6, 2, 1, 7, 4, 3, 5 (หน้าที่ 21)



4. ข้อใดเรียงลำดับจากต่ำไปหาสูงของความจุของหน่วยเก็บข้อมูลได้ถูกต้อง
ก. 6, 7, 4, 3, 2, 1, 5
ข. 5, 3, 4, 7, 1, 2, 6
ค. 3, 2, 1, 4, 5, 6, 7
ง. 4, 7, 3, 2, 1, 5, 6
เฉลย ข. 5, 3, 4, 7, 1, 2, 6 (หน้า 21)
ดูเฉลยในข้อ 3


5. ซอฟต์แวร์ระบบสามารถแบ่งออกเป็นกี่ส่วน
ก. 2
ข. 3
ค. 4
ง. 5
เฉลย ข. 3 (หน้า 22 -23 )
ซอฟต์แวร์ระบบ (System Software) แบ่งได้ 3 ส่วนย่อยดังนี้
1. โปรแกรมของระบบปฏิบัติการณ์(OS : Operating system)
2. โปรแกรมแปลภาษาคอมพิวเตอร์ (Transtator Program)
3. โปรแกรมอรรถประโยชน์ (Utility program)


6. ยุคทรานซิสเตอร์จัดอยู่ในยุคใดของคอมพิเตอร์
ก. ยุคแรก
ข. ยุคที่ 2
ค. ยุคที่ 3
ง. ยุคที่ 4
เฉลย ข. ยุคที่ 2(หน้า 28)
ยุคที่ 2 (ค.ศ. 1955 – 1964 ) เป็นยุคทรานซิสเตอร์ที่คอมพิวเตอร์มีความน่าเชื่อถือมากขึ้นจนได้มีการผลิตขึ้นมาเพื่อขายกับลูกค้า เครื่องที่ว่านี้คือ เมนเฟรมคอมพิวเตอร์นั่นเอง


7. ข้อใดไม่ใช่ข้อดีของการทำงานของระบบสพูลลิ่ง ( Spooling System)
ก. สามารถประมวลผลงานก่อนหลังตามลำดับความสำคัญ
ข. มีการแอ็กเซสข้อมูลของดิสก์เป็นแบบโดยตรง
ค. ซีพียูทำงานพร้อมกันของงานได้ 2 งาน
ง. โหลดโปรแกรมไว้ในหน่วยความจำหลักพร้อมจะประมวลผลได้ทันที
เฉลย ง. โหลดโปรแกรมไว้ในหน่วยความจำหลักพร้อมจะประมวลผลได้ทันที (หน้า 31 -32 )
การโหลดโปรแกรมไว้ในหน่วยความจำหลักพร้อมจะประมวลผลได้ทันที เป็นหลักการทำงานของระบบมัลติโปรแกรมมิ่ง ( Multiprogramming) นอนนั้นเป็นข้อดีของระบบสพูลลิ่ง (Spooling System)


8. ข้อใดไม่จัดอยู่ใน Operating System Services
ก. การปฏิบัติกับ อินพุท / เอาต์พุท
ข. การจัดแบ่งเวลาการใช่ดิสก์
ค. การจัดหการระบบไฟล์
ง. การแชร์รีชอร์ส
เฉลย ข. การจัดแบ่งเวลาการใช่ดิสก์ (หน้า 41 - 44 )
ทุกข้อเป็นเชอร์วิสของระบบปฏิบัติยกเว้น การจัดแบ่งเวลาการใช่ดิสก์ เป็นความรับผิดชอบของการจัดการสื่อจัดเก็บจ้อมูล (Storage mangment)


9. ซอฟต์แวร์สำเร็วรูป ( Package) บางครั้งจะเรียกซอฟต์แวร์ประเภทนี้ว่าอะไร
ก. COTS
ข. DBMS
ค. COST
ง. DBA
เฉลย ก. COTS (หน้า 23)
ซอฟต์แวร์สำเร็วรูป ( Package) บางครั้งจะเรียกซอฟต์แวร์ประเภทนี้ว่า

COTS : Commercial Off The Shelf


10.ยุคของคอมพิวเตอร์ยุคใดที่เริ่มมีการคิดค้นและผลิต IC และเริ่มมีระบบเรียลไทม์
ก. ยุคที่ แรก
ข. ยุคที่ 2
ค. ยุคที่ 3
ง. ยุคที่ 4
เฉลย ค. ยุคที่ 3 (หน้า 28 )
ยุคที่ 3 เริ่มมีการคิดค้นและผลิต IC (Integrated Circuit) ทำให้คอมพิวเตอร์มีขนาดเล็กลงและมีการพัฒนาขั้นสูงแม้จะมีข้อจำกัดด้านมัลติโปรแกรมและมัลติโปรเซสซิ่ง แต่เริ่มมีระบบเรียลไทม์ การแบ่งเวลา

วันพฤหัสบดีที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2552

การปรับแต่ง REGISTRY

เทคนิคการปรับแต่ง Registry โชว์ Background แบบเต็มๆด้วยการซ่อน Desktop เรียก Regedit ขึ้นมา แล้วไปที่ [HKEY_CURRENT_USER\Ssoftware\Microsoft\Windows\Curr entVersion \Policies\Explorer] คลิกขวา เลือก New >> DWORD Value แล้วตั้งชื่อว่า NoDesktop ให้ Double Click ขึ้นมา แล้วใส่ค่า Value Data เป็น 1 หากต้องการยกเลิก ก็เข้าไปลบ KEY ที่ได้สร้างเอาไว้ออก หรือเปลี่ยนค่าเป็น 0 และ Restart เครื่อง
ซ่อนหน้า Background Setting เรียก Regedit ขึ้นมา แล้วไปที่ [HKEY_CURRENT_USER\Software\Microsoft\Windows\Curre ntVersion \Policies\System] คลิกขวา เลือก New >> DWORD Value แล้วตั้งชื่อว่า NoDispBackgroundPage ให้ Double Click ขึ้นมา แล้วใส่ค่า Value Data เป็น 1 หากต้องการยกเลิก ก็เข้าไปลบ KEY ที่ได้สร้างเอาไว้ออก หรือเปลี่ยนค่าเป็น 0 และ Restart เครื่อง ซ่อนหน้า Appearance Setting เรียก Regedit ขึ้นมา
แล้วไปที่ [HKEY_CURRENT_USER\Software\Microsoft\Windows\Curre ntVersion \Policies\System] คลิกขวา เลือก New >> DWORD Value แล้วตั้งชื่อว่า NoDispAppearancePage ให้ Double Click ขึ้นมา แล้วใส่ค่า Value Data เป็น 1 หากต้องการยกเลิก ก็เข้าไปลบ KEY ที่ได้สร้างเอาไว้ออก หรือเปลี่ยนค่าเป็น 0 และ Restart เครื่อง ซ่อนหน้า Display Setting เรียก Regedit ขึ้นมา
แล้วไปที่ [HKEY_CURRENT_USER\Software\Microsoft\Windows\Curre ntVersion \Policies\System] คลิกขวา เลือก New >> DWORD Value แล้วตั้งชื่อว่า NoDispSettingsPage ให้ Double Click ขึ้นมา แล้วใส่ค่า Value Data เป็น 1 หากต้องการยกเลิก ก็เข้าไปลบ KEY ที่ได้สร้างเอาไว้ออก หรือเปลี่ยนค่าเป็น 0 และ Restart เครื่อง ซ่อนหน้า Screensaver Setting เรียก Regedit ขึ้นมา แล้วไปที่ [HKEY_CURRENT_USER\Software\Microsoft\Windows\Curre ntVersion \Policies\System] คลิกขวา เลือก New >> DWORD Value แล้วตั้งชื่อว่า NoDispScrSavPage
ให้ Double Click ขึ้นมา แล้วใส่ค่า Value Data เป็น 1 หากต้องการยกเลิก ก็เข้าไปลบ KEY ที่ได้สร้างเอาไว้ออก หรือเปลี่ยนค่าเป็น 0 และ Restart เครื่อง ซ่อน Device Manager เรียก Regedit ขึ้นมา แล้วไปที่ [HKEY_CURRENT_USER\Software\Microsoft\Windows\Curre ntVersion \Policies\System] คลิกขวา เลือก New >> DWORD Value แล้วตั้งชื่อว่า NoDevMgrPage ให้ Double Click ขึ้นมา แล้วใส่ค่า Value Data เป็น 1 หากต้องการยกเลิก ก็เข้าไปลบ KEY ที่ได้สร้างเอาไว้ออก หรือเปลี่ยนค่าเป็น 0 และ Restart เครื่อง ซ่อน Drive ไม่ให้คนอื่นเห็น เรียก Regedit ขึ้นมา
แล้วไปที่ [HKEY_CURRENT_USER\Software\Microsoft\Windows\Curre ntVersion \Policies\Explorer] คลิกขวา เลือก New >> DWORD Value แล้วตั้งชื่อว่า NoDrives ให้ Double Click ขึ้นมา เลือกใส่ค่าแบบ Decimal แล้วใส่ค่า Value Data เป็นค่าตัวเลขตาม Drive ที่ต้องการให้ซ่อนดังนี้ หากต้องการซ่อนหลายไดรว์พร้อมกัน ก็นำค่าของแต่ละไดรว์มาบวกกัน เช่น ต้องการซ่อนไดรว์ A: D: และ F: ก็ใส่ค่าเท่ากับ 41 เป็นต้น หากต้องการยกเลิก ก็เข้าไปลบ KEY ที่ได้สร้างเอาไว้ออก และ Restart เครื่อง

ระบบปฏิบัติการ DOS

ระบบปฏิบัติการ (operating system)

เป็นส่วนประกอบที่สำคัญของระบบซอฟต์แวร์ ระบบปฏิบัติการประกอบขึ้นจากชุดโปรแกรมที่ทำหน้าที่ควบคุมดูแลการดำเนินการต่าง ๆ ของระบบคอมพิวเตอร์ และประสานการทำงานระหว่างทรัพยากรต่าง ๆ ในระบบคอมพิวเตอร์ ทั้งส่วนที่เป็นซอฟต์แวร์และส่วนที่เป็นฮาร์ดแวร์ให้เป็นไปย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ
ระบบคอมพิวเตอร์ในระดับไมโครคอมพิวเตอร์ โดยทั่วไปใช้ระบบปฏิบัติการที่จัดเก็บอยู่บนแผ่นบันทึกหรือฮาร์ดดิสก์ ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในชื่อของ เอ็มเอสดอส (Microsort Disk Operating System : MS-DOS) ซึ่งพัฒนาโดยบริษัทไมโครซอฟต์คอร์ปอเรชัน ระบบปฏิบัติการนี้ได้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ตามความต้องการของผู้ใช้และพัฒนาการทางด้านซอฟต์แวร์และฮารด์แวร์

ชนิดคำสั่ง DOS
คำสั่งของ DOS มีอยู่ 2 ชนิดคือ
1. คำสั่งภายใน (Internal Command) เป็นคำสั่งที่เรียกใช้ได้ทันทีตลอดเวลาที่เครื่องเปิดใช้งานอยู่ เพราะคำสั่งประเภทนี้ถูกบรรจุลงในหน่วยความจำหลัก (ROM) ตลอดเวลา หลังจากที่ Boot DOS ส่วนมากจะเป็นคำสั่งที่ใช้อยู่เสมอ เช่น CLS, DIR, COPY, REN เป็นต้น
2. คำสั่งภายนอก (External Command) คำสั่งนี้จะถูกเก็บไว้ในดิสก์หรือแผ่น DOS คำสั่งเหล่านี้จะไม่ถูกเก็บไว้ในหน่วยความจำ เมื่อต้องการใช้คำสั่งเหล่านี้คอมพิวเตอร์จะเรียกคำสั่งเข้าสู๋หน่วยความจำ ถ้าแผ่นดิสก์หรือฮาร์ดดิสก์ไม่มีคำสั่งที่ต้องการใช้อยู่ก็ไม่สามารถเรียกคำสั่งนั้น ๆ ได้ ตัวอย่างเช่น คำสั่ง FORMAT, DISKCOPY, TREE, DELTREE เป็นต้น

คำสั่งภายนอก(EXTERNAL COMMAND)
คำสั่งภายนอกมี 2 นามสกุล
1.นามสกุลเป็น .COM เป็น file ที่บรรจุข้อมูลที่ถูกแปลงเป็นภาษาเครื่องแล้ว
2.นามสกุลเป็น .EXE เป็น file ที่บรรจุข้อมูลที่เขียนโดยใช้ภาษาระดับสูงและแปลงเป็นภาษาเครื่องแล้ว